รอยสิวเกิดขึ้นได้อย่างไร ?
สำหรับรอยสิวนั้น เกิดจากสิวอักเสบ หรือ สิวอุดตันที่ได้รับการรักษาผิดวิธี เช่น การกดสิวเอง การเค้นสิวจนผิวบริเวณนั้นบอบช้ำ ทำให้เกิดปัญหารอยแดง รอยดำ และหลุมสิวตามมา แม้ว่ารอยสิวจะไม่ได้มีอันตรายร้ายแรง แต่ก็สร้างความกังวลได้ ทำให้หมดความมั่นใจในตัวเอง
ประเภทของรอยสิว
สำหรับประเภทของรอยสิวนั้น สามารถแบ่งประเภทของรอยสิว สาเหตุการเกิดรอยสิว ได้ตามอาการ และลักษณะของรอยสิว ดังนี้
1. รอยแดงจากสิว
มีลักษณะเป็นสีแดง ชมพู หรืออาจมีสีม่วงจากสิว เกิดจากการอักเสบของผิวหนัง เนื่องจากต่อมผลิตน้ำมันออกมามากเกินไป จนทำให้อุดตันในรูขุมขน เกิดเชื้อแบคทีเรียที่ทำให้ผิวอักเสบจนกลายเป็นสิวอักเสบนั่นเอง
2. รอยดำจากสิว
มีลักษณะเป็นจุดสีดำ น้ำตาลเข้ม หรือสีเทา ซึ่งเกิดจากจากการอักเสบและระคายเคืองของชั้นผิว จนไปกระตุ้นให้เมลาโนไซต์ที่มีหน้าที่ผลิตเมลานินทำงานมากเกินไป มักเกิดในคนผิวคล้ำมากกว่าผิวขาว
3. รอยหลุมสิว
คือ รอยแผลเป็นจากสิว มักเกิดจากสิวอักเสบที่อักเสบลึกจนถึงผิวชั้นใน เมื่อหายแล้วร่างกายจะสร้างคอลลาเจนและเนื้อเยื่อมาใหม่เพื่อสมานแผล แต่สุดท้ายก็จะไม่ได้เรียบเนียนเหมือนผิวในตอนแรก เพราะได้รับบาดเจ็บในชั้นผิวหนังที่อยู่ลึกลงไป ทำให้คอลลาเจนและเนื้อเยื่อที่สร้างไม่เพียงพอ จนเกิดเป็นรอยหลุมสิวในที่สุด
10 วิธีรักษารอยสิว ลดรอยดำ รอยแดง จากสิวบนใบหน้า
หลายคนอาจสงสัยว่า รอยดำ รอยแดงจากสิวกี่วันหาย รวมไปถึง รอยสิวหายเองได้ไหม วันนี้เรารวบรวม วิธีรักษารอยสิว รักษารอยแดงจากสิว แผลเป็นดำ แดงจากสิว และการรักษารอยดำจากสิวเร่งด่วน มาให้ถึง 10 วิธี
1. หลีกเลี่ยงการแกะ บีบ กดสิวด้วยตนเอง
ข้อสำคัญของการรักษารอยสิว หรือไม่เพิ่มรอยสิวให้มากกว่าเดิมคือ หลีกเลี่ยงการไปสัมผัส บีบ แกะ ที่ก่อให้เกิดการกระตุ้นเนื้อเยื่อผิวหนังและอาจทำให้รูขุมขนอักเสบและทำให้การรักษารอยแดงจากสิวใช้เวลานานกว่าเดิม ยิ่งใครที่กดสิวโดยไม่ได้ล้างมือ ยิ่งเพิ่มโอกาสให้ผิวหนังอักเสบมากกว่าเดิม ส่งผลให้รอยแดงหายช้าอีกด้วย
2. ใช้ SHEET MASK ในการบำรุงผิวช่วงกลางคืน
ถือเป็นการบำรุงล้ำลึกและเร่งด่วนที่สามารถทำได้ทุกวัน ลองเลือกสูตรที่ช่วยให้ผิวกระจ่างใส ปรับสีผิวให้ดูสม่ำเสมอ ควบคู่กับสูตรรักษาสิวสลับกัน ก็จะช่วยกู้ผิวให้กลับมาแข็งแรงขึ้น พร้อมกับการรักษารอยดำจากสิวเร่งด่วนได้อย่างแน่นอน
3. ครีมบำรุงที่ช่วยลดเลือนจุดด่างดำ และรักษารอยสิว
เลือกครีมบำรุงที่มีไวท์เทนนิ่ง หรือส่วนผสมที่ช่วยรักษารอยสิวและรักษารอยแดงจากสิวได้ อย่างวิตามินซี (Vitamin C), อาร์บูติน (Arbutin), ไนอะซินาไมด์ (Niacinamide) แต่จำเป็นต้องผ่านการทดสอบจากแพทย์ผิวหนังแล้วว่าไม่ทำให้เกิดสิว ผิวบอบบางแพ้ง่าย หรือผิวเป็นสิวสามารถใช้ได้ เพื่อป้องกันการเกิดอาการแพ้สิวขึ้นซ้ำ จนส่งผลให้เกิดรอยดำรอยแดงจากสิวเพิ่มขึ้นได้
4. วิตามินบำรุงผิว
สำหรับการใช้อาหารเสริม เป็นอีกทางเลือกที่สามารถรักษารอยสิวได้สำหรับคนที่ไม่ค่อยมีเวลาดูแลตัวเอง หรืออาจจะรับประทานอาหารได้ไม่ครบ 5 หมู่ แนะนำเป็นวิตามินซี และวิตามินที่ช่วยลดสิวอย่าง Zinc จะช่วยให้ผิวกระจ่างใส ช่วยรักษารอยสิวและป้องกันการเจริญเติบโตของเชื้อแบคทีเรีย ทำให้ไขมันไม่ไปอุดตันซึ่งเป็นสาเหตุหลักของการเกิดสิว
5. สครับหน้าอาทิตย์ละครั้ง
หากมีรอยดำจากสิวสะสมมาก ๆ การสครับหน้าสามารถช่วยรักษารอยสิวได้เพราะช่วยกำจัดเซลล์ผิวที่เสื่อมสภาพเหล่านั้นออกไป ทำให้สีผิวสม่ำเสมอกัน ในปัจจุบันมีสครับหลากหลายรูปแบบ อาจมาในรูปแบบโฟมล้างหน้า หรือเราสามารถทำเองก็ได้ สูตรที่อยากแนะนำคือ น้ำตาลทรายแดง + โยเกิร์ต + น้ำมะนาว ส่วนผสมทั้ง 3 นี้ จะช่วยผลัดเซลล์ผิวและยังเพิ่มความชุ่มชื้นได้อีกด้วย การสครับควรทำแต่พอดีไม่ถี่เกินไป
6. มาสก์สมุนไพรธรรมชาติแบบ D.I.Y.
อีกวิธีที่สามารถรักษารอยสิวได้ด้วยตัวเอง ฮิตมาตั้งแต่รุ่นแม่ เพราะใช้ผสมจากธรรมชาติอย่าง ว่านหางจระเข้ผสมมะนาว สูตรนี้ช่วยลดการอักเสบของสิวและยังปรับผิวให้กระจ่างใสด้วยมะนาวได้อีกด้วย ลองทำวันเว้นวัน ต่อเนื่องสักสองสัปดาห์ รับรองว่าหน้ากระจ่างใสขึ้นแน่นอน อีกวิธีสำหรับการรักษารอยดำจากสิวเร่งด่วนที่ทำง่ายๆ และได้ผลดี
7. การฉีดเมโสหน้าใส
การฉีดเมโสหน้าใส (Mesotherapy)เป็นอีกหนึ่งวิธีบำรุงผิวโดยการฉีดสารสกัดจากวิตามินที่มีความสำคัญต่อผิว เช่น วิตามินซี วิตามินเอ วิตตามินอี กลูต้าไธโอน คอลลาเจน คิวเท็น และ โคเอนไซน์ ซึ่งแพทย์ผู้เชียวชาญจะทำการเลือกสูตรวิตามินที่เหมาะสมกับการแก้ปัญหาผิว เพื่อประสิทธิภาพในการฟื้นฟูผิวที่หมองคล้ำ ไม่กระจ่างใส ลดรอยสิว และจุดด่างดำบนใบหน้า เป็นต้น
8. การลอกหน้าผลัดเซลล์ผิว
การลอกหน้าผลัดเซลล์ผิว (Chemical Peeling) เป็นกระบวนการที่ใช้น้ำยาเคมีเพื่อลอกผิวหน้าและปรับปรุงคุณภาพของผิวให้ดีขึ้นโดยกระตุ้นการสร้างเซลล์ผิวใหม่และกำจัดผิวที่เสื่อมสภาพออกไป ผลลัพธ์ที่ได้คือรอยสิวจางลงและใบหน้าที่ดูอ่อนเยาว์ขึ้น
9. เลเซอร์รักษารอยสิว
สำหรับวิธีนี้จะสามารถรักษารอยสิวได้ทั้งรอยแดง รอยดำ และหลุมสิว เนื่องจากแสงเลเซอร์สามารถเข้าถึงผิวหนังชั้นบนและชั้นกลางได้ ช่วยกระตุ้นให้เกิดเซลล์ผิวใหม่ที่แข็งแรงขึ้นนั่นเอง แต่อาจจะต้องทำหลายครั้ง ทั้งนี้ ขึ้นอยู่กับจำนวนรอยที่เกิดขึ้นและระยะเวลาที่เป็น
10. การใช้คลื่นแสงที่มีความเข็มสูง IPL
IPL (Intense Pulse Light) คือ แสงที่มีความเข็มสูงและช่วงคลื่นกว้างกว่าเลเซอร์ใช้ในการฟื้นฟูสภาพผิวและกระตุ้นการสร้างอิลาสตินและคอลลาเจนใต้ผิวหนัง ช่วยปรับสภาพผิวให้เรียบเนียน ลดความหมองคล้ำ จุดด่างดำและรอยสิวดูจางลง ซึ่งสามารถใช้รักษาได้หลายส่วนของร่างกายเช่น ใบหน้า ลำคอ แผ่นหลัง และหน้าอก เป็นต้น
10 คลินิกรักษารอยดำจากปัญหาสิว
1.Apex Clinic
หากนึกถึงการ เลเซอร์ขน ไม่ว่าจะเป็นเลเซอร์ขนน้องสาว บราซิลเลี่ยน บิกินี่ ขนเเขน ขนขา หนวด เชื่อว่าคุณๆหลายท่าน ต้องนึกถึง APEX เพราะเขาเป็นคลินิกที่ขึ้นชื่อเรื่องการกำจัดขนทั่วเรือนร่างโดยเฉพาะ มีประสบการณ์มาแล้วกว่า 28 ปี ก่อตั้งมาตั้งแต่ปี 1995
เว็บไซต์: https://www.apexprofoundbeauty.com/
เฟซบุ๊ก: https://www.facebook.com/ApexProfoundBeauty/
เบอร์โทร:080- 500 0123
2.Gangnam Clinic
คลินิกเสริมความงามที่รับประกันคุณภาพและผลลัพธ์ด้วยการดูแลโดยทีมแพทย์ผู้เชี่ยวชาญและมาตรฐานจากประเทศเกาหลีใต้ ซึ่งได้รับความนิยมจากผู้ที่มีชื่อเสียงในวงการบันเทิงมากมายและการันตีคุณภาพ ราคาที่สามารถเอื้อมถึงได้ สมเหตุสมผล และมีความคุ้มค่า
เว็บไซต์: www.gangnamclinicth.net/
เฟซบุ๊ก: www.facebook.com/gangnamclinic/
เบอร์โทร: 064-945-2323 หรือ 090-665-3616
3.V Square Clinic
คลินิกเสริมความงามที่มีความโดดเด่นด้านทางด้านการปรับรูปหน้า โดยมีทีมแพทย์ผู้เชี่ยวชาญและมีประสบการณ์ทางด้านความงามมาอย่างยาวนาน ซึ่งทางคลินิกได้มีการนำนวัตกรรมใหม่ ๆ มาใช้เพื่อให้มีความทันสมัยอยู่เสมอ
เว็บไซต์: www.vsquareclinic.com/
เฟซบุ๊ก: www.facebook.com/VsquareClinic/
เบอร์โทร: 099-168-9000 หรือ 090-099-0000
4.NITIPON CLINIC
คลินิกฉีดเมโสหน้าใส นิติพล คลินิก ที่มีสาขาเยอะมาก มีเทคโนโลยีที่ทันสมัย พร้อมการบริการจากทีมแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทาง และทีมงานที่มีความรู้ความชำนาญ เป็นคลินิกดูแลผิวพรรณ และเป็นสถาบันดูแลความงามครบวงจร มีให้บริการฉีดเมโสหน้าใส MESO เทอราปี, MESO รอยแดงรอยดำ MESO ฝ้ากระ สูตร AURA BO และSKIN GLOW ช่วยแก้ปัญหาฝ้า กระ จุดด่างดำ เพิ่มความกระจ่างใสให้ผิว
เว็บไซต์: https://nitiponclinic.com/
เฟซบุ๊ก: https://www.facebook.com/nitiponclinic/
เบอร์โทร: 081-351-9866
5.Meko Clinic
Meko Clinic ดำเนินงานโดยคุณหมอมนัส ซึ่งมีชื่อเสียงมากจากรายการ Let Me In Thailand เป็นการการันตีฝีมือของคุณหมอแล้วว่ามีความชำนาญในด้านการศัลยกรรม และเสริมความงามมากน้อยเพียงใด อีกทั้งคุณหมอยังเชี่ยวชาญในด้านความงามโดยการฉีดฟิลเลอร์ ซึ่งได้รับความไว้วางใจจากดาราเซเลปบริตี้มากมาย
เว็บไซต์: https://mekoclinic.com
เฟซบุ๊ก:https://www.facebook.com/mekobeauty
เบอร์โทร:02 272 0022
6.DERMASTER CLINIC
คลินิกฉีดหน้าใส DERMASTER CLINIC เป็นสถาบันเสริมความงาม โดยทีมแพทย์ผู้ชำนาญการ พร้อมเครื่องมือและเทคโนโลยีที่ปลอดภัย เป็นคลินิกคำนึงถึงความสะดวกสบายและความเป็นส่วนตัวของผู้เข้ารับบริการ โดยบริการฉีดเมโสหน้าใส ใช้ตัวยาฉีดหน้าใสเป็น TRANSAMIN เป็นชื่อการค้าของยา TRANEXAMIC ACID ช่วยแก้ปัญหาฝ้า กระ รอยดำฝังลึกจากสิว โดยให้ความสำคัญกับการใช้ยา และเลือกใช้ให้เหมาะสมกับคนไข้โดยไม่เกิดผลข้างเคียง คำนึงถึงความปลอดภัยเป็นหลัก และแพทย์มีเทคนิคในการฉีดเพื่อสลายเม็ดสีได้อย่างชำนาญ
เว็บไซต์: https://dermaster-thailand.com/th/
เฟซบุ๊ก: https://www.facebook.com/dermasterthailand/
เบอร์โทร: 02-714-4471
7.Amed Clinic
Amed Clinic ของมาดาม มีทีมแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทาง เกี่ยวกับการฉีด โบท็อกซ์ Botox เพื่อลดกราม ทำให้หน้าเรียว เหมาะสำหรับคนที่ต้องการปรับรูปหน้า เพราะการทำให้ใบหน้าเรียว กระชับเป็นวีเชฟ แพทย์จะเป็นผู้ตรวจสภาพผิวของลูกค้าก่อนฉีดโบท็อกซ์ Botox คุณจึงมั่นใจได้ถึงความปลอดภัย
เว็บไซต์: https://www.amedclinic.com/
เฟซบุ๊ก: https://www.facebook.com/AmedOfficial/
เบอร์โทร: 080 249 2326
8.โรงพยาบาลยันฮี
โรงพยาบาลยันฮี เป็นโรงพยาบาลด้านสุขภาพและความงามที่รวบรวมบริการไว้อย่างหลากหลายและทันสมัย มีประสบการณ์ในการตรวจวินิจฉัย ผ่าตัดรักษามากว่า 37 ปี มีศูนย์การรักษามากถึง 37 ศูนย์ ครอบคลุมตั้งแต่ศูนย์ศัลยกรรมตกแต่ง ศูนย์รักษา โรคทั่วไป ศูนย์ทันตกรรม และศูนย์แพทย์ทางเลือก โดยมีทีมแพทย์เฉพาะทางที่พร้อมให้การดูแลรักษาอย่างตรงจุด
เว็บไซต์: https://th.yanhee.net/
เฟซบุ๊ก: https://www.facebook.com/YanheeHospital.YH/
เบอร์โทร: 02 879 0300
9.Pewdee Skin&Aesthetic Clinic
ผิวดีคลินิกได้ก่อตั้งขึ้น ในปี พ.ศ. 2532 โดย พ.ญ.กุหลาบ จิตต์มิตรภาพ ด้วยเจตนารมณ์ที่อยากให้ ผิวดีคลินิก ให้บริการตรวจรักษาปัญหาทางด้านผิวหนัง ผิวพรรณ ความงามและโรคทั่วไป โดยผสมผสานด้านเลเซอร์และนวัตกรรมจากทั่วโลก
เว็บไซต์: https://pewdeeclinic.com/
เฟซบุ๊ก: https://www.facebook.com/pewdeeclinic/
เบอร์โทร: 02 028 2299
10.Masterpiece Hospital
เป็นศูนย์รวมบริการด้านศัลยกรรมความงาม มั่นใจเรื่องคุณภาพได้ด้วยการบริการทุกขั้นตอนภายใต้มาตรฐานโรงพยาบาลที่มีความสะอาดและปลอดภัย พร้อมทั้งเครื่องมือทางการแพทย์ที่มีเทคโนโลยีทันสมัย และมีทีมแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ
เว็บไซต์: https://www.masterpiecehospital.com/
เฟซบุ๊ก: www.facebook.com/masterpiecehospital/
เบอร์โทร: 02-105-4370
